"อย่ามาขิง" ประโยคที่เพื่อนๆน่าจะเคยได้ยินบ่อยๆสมัยนี้ เราใช้ขิงในชีวิตประจำวันมากมายหลายอย่าง เป็นเครื่องเทศให้กับมื้ออาหารหรือดื่มชาร้อน ๆ แต่ประเด็นที่น่าสนใจเคือประโยชน์ที่ขิงมีต่อสุขภาพ
คำว่า ขิง มาจากภาษาสันสกฤต singabera หมายถึง 'มีรูปร่างเหมือนเขาสัตว์' และเป็นสมาชิกของตระกูลพืชจำพวกกระวานและขมิ้น แม้แต่กล้วยก็เป็นญาติห่างๆ กับขิง แต่ผิดแปลกจากพืชส่วนใหญ่ ขิงจะไม่เติบโตในป่าและไม่สามารถเติบโตจากเมล็ดได้ แต่ต้องปลูกฝังโดยแบ่งราก ต้นกำเนิดของมันไม่แน่นอน แต่เติบโตได้ดีในดินที่อุดมสมบูรณ์บนที่สูงและมีฝนตกชุก โดยแทบไม่ต้องใช้ยาฆ่าแมลง เนื่องจากมีศัตรูธรรมชาติเพียงไม่กี่อย่าง ปัจจุบันอินเดียเป็นผู้ผลิตขิงรายใหญ่ที่สุดของโลก
มีการวิจายมากมายระบุไว้ว่าขิงมีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย ต้านเชื้อรา บรรเทาอาการปวด แก้ร้อนใน และระงับอาการเมารถ ขิงได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการรักษาโรคเมารถ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งบางชนิด เสริมสร้างหัวใจ, หลอดเลือดแดงและเส้นเลือดฝอยและปรับปรุงการไหลเวียนโลหิต
แถมยังมีงานวิจัยจาก Pain Medicine ในปี 2015 ได้ทบทวนการทดลองกับกลุ่มควบคุม 7 กลุ่ม เพื่อค้นหาหลักฐานที่บ่งชี้ว่าการบริโภคขิงผงในช่วงสองสามวันแรกของรอบเดือนอาจช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนได้
ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมขิงมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในทางการแพทย์มากว่า 2,000 ปี ยิ่งไปกว่านั้นมีการค้นพบว่าชาวจีนได้ใช้ขิงมานานกว่า 4,000 ปี ขงจื๊อนักปราชญ์ชาวจีนผู้ยิ่งใหญ่ก็ยืนกรานว่าขิงจะใช้ในการประกอบอาหารในทุกๆมื้อ
ป.ล. รู้ไหม ว่า "ทำไมขิงจัง" หรือ "อย่ามาขิง" มาจากคำผวน ของ "สิงห์ขี้คุย" ว่า "ซุยขี้ขิง" หลังๆเอามาใช้กันว่า "อย่ามาขิง" แต่เมื่อก่อนใช้คำว่า "อย่ามาซุย" หรือง่ายๆคือแปลว่าอวดครับ แต่ถ้าขิงมีประโยชน์ ขนาดนี้ ถ้าเอาไปใช้แทนคำว่าอวด ผมว่าก็เหมาสมดีนะครับ
เต่าบินมีเมนูขิงให้ชิมหลายอย่าง อย่าลืมดื่มน้ำขิงแล้วดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ
Commenti